หลังจากทำสงคราม ยึดนครจำปาศักดิ์เสร็จสิ้นลง มีนายทหารท่านหนึ่งมากราบท่านพระอาจารย์มั่น ด้วยความเลื่อมใส มาถึงตอนเช้าก็ถวายทาน ปกติระเบียบของท่านพระอาจารย์มั่น ถ้าแขกมาอย่างนี้น่ะ ท่านจะให้มาเวลาเช้า เวลานี้ท่านจะให้ต้อนรับ แต่ถ้าเลิกฉันบิณฑบาตแล้วหมดเวลา จนถึงบ่าย 3 โมง และจะต้องมีผู้นำมา ถ้าไม่มีผู้นำ ท่านไม่ให้เข้ามา
ทีนี้ท่านมาคนเดียว ขึ้นไปกราบนมัสการแล้ว ท่านก็รายงานตามแบบทหาร ชื่อนั้น ยศท่าน เท่านี้ ท่านพระอาจารย์มั่นก็เทศนาเกี่ยวกับ ทาน ศีล เนกขัมมะ การออกจากกาม โทษของกาม หลังจากท่านเทศน์จบก็ลากลับ พอตกค่ำหลังจากอบรมพระเณรเสร็จแล้ว ผู้เล่าได้ขึ้นไปปฏิบัติท่าน ถวายการนวด ท่านก็ปรารภเปรยๆ ขึ้นว่า “อันนี้ได้เหตุล่ะน่ะ" (อันนี้ หมายถึงตัวท่าน) วันนั้นตอนเช้าใกล้จะสว่างท่านทำสมาธิอยู่ ก็มีนิมิตปรากฏว่า มีนายพันคนหนึ่ง มารายงานตัวว่า ผมมาจากวอชิงตัน ตอนนั้นก็ยังไม่ได้พิจารณาอะไรหรอกบังเอิญมา พบนายพันทหารไทยคนนี้ ท่านก็จึงหวนพิจารณา
ได้ความว่า นายพันทหารไทยคนนี้น่ะ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปรบอยู่ที่ประเทศเยอรมัน มียศเป็นนายพันทหารเหมือนกัน เป็นคนอเมริกันและพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ได้ส่งทหารไทยไปรบ อยู่ที่เยอรมันนั้นเอง อยู่ฝ่ายสัมพันธมิตร สมัยนั้น เวลาจะพักรบน่ะพักจริงๆ ขนาดทหารฝ่ายสัมพันธมิตร กับทหารเยอรมัน จุดบุหรี่ ด้วยกันได้ ไม่เหมือนทุกวันนี้ หลังจากพักรบแล้ว นายพันทหารไทยก็มานอน อ่านหนังสืออยู่ที่เปล
นายพันทหารอเมริกันก็เข้ามาถาม “อ่านหนังสืออะไร”
นายพันทหารไทย “อ่านหนังสือเรื่องเบญจศีล เบญจธรรม เขียนโดย สมเด็จมหาสมณเจ้า กรมพระยาวขิรญาณวโรรส”
“ผมอยากรู้ อธิบายให้ฟังได้ไหม”
นายทหารไทยก็อธิบายให้ฟัง แกก็เลื่อมใส พูดว่า “ผมนับถือคริสต์ ผมจะปฏิบัติอย่างนี้ได้ไหม”
“ขึ้นชื่อว่าความดีนี้ ไม่เลือก จะนับถืออะไรก็ทำได้” ทหารไทยตอบ
แกก็เลยสมาทานศีลห้า กลับไปอเมริกา ไปสิ้นชีวิตลงที่นั่น
ด้วยอานิสงค์ของการรักษาศีล 5 นี้ ก็พลัดเข้ามาสู่วงศ์พระพุทธศาสนา พอพลัดเข้ามาแล้ว ก็ยังได้มาเป็นนายพันทหารอีกเหมือนกัน คือ ท่านพันเอกนิ่ม ชโยดม คนที่เข้ามาเมื่อเช้านั่นแหละ เธอต้องการอยากจะสำเร็จเป็นพระโสดาบัน เธอพูดกับท่านพระอาจารย์ว่า “จะได้ปิดประตูอบายภูมิ จะเป็นไปได้ไหมท่านอาจารย์”
ท่าน ฯ บอก “สำหรับผู้ปฏิบัติ ก็คงจะได้กระมัง”
เธอก็ยังสงสัยลังเลอยู่ ยังไม่มั่นใจ พอกลับไปกราบท่านพระอาจารย์ ครั้งที่ 2 ก็ถามอีก ครั้งที่ 3 ก็ถามอีก ท่านพระอาจารย์มั่นก็พูดเหมือนเดิม
หลังจากนายพันเอกนิ่มกลับไปแล้ว ขณะผู้เล่าถวายการนวดอยู่ ท่านพูดว่า “เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะบารมียังอ่อน เขาเป็นพาหิราศาสนา ศาสนาภายนอกมาหลายภพ หลายชาติ ด้วยอานิสงค์ที่รักษาศีล 5 ในพระพุทธศาสนา จึงพลัดเข้ามาสู่วงศ์พระพุทธศาสนา ต้องมาเกิดในประเทศไทยนี้ถึง 2 ชาติเสียก่อน จึงจะได้สำเร็จ เป็นอริยบุคคล โสดาบัน เพราะบารมียังอ่อน”
ประวัติพันเอกนิ่ม ชโยดม ท.ช., ท.ม.
เกิด 25 มกราคม 2440 ณ บ้านปลักแรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เริ่มเรียน หนังสือครั้งแรกที่บ้านเกิด จนกระทั่งอายุ 19 ปี ในปี พ.ศ. 2460 สอบเข้า โรงเรียนนายร้อยทหารบก สำเร็จออกรับราชการ ในปี 2465 ได้รับบรรดาศักดิ์ เป็นขุนนิมมานกลยุทธ
ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2484 ขณะเป็นผู้บังคับกองพัน ทหารราบที่2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้นำทหารในบังคับบัญชาปฏิบัติการรบ เพื่อป้องกันเขตไทยที่เมืองจำปาศักดิ์ ได้รับชัยชนะอย่างงดงาม ที่เรียกว่า “วีรกรรมบ้านพร้าว”
ประมาณ พ.ศ. 2490-2492 ย้ายไปรับราชการเป็นผู้บังคับการทหารบกอุบลราชธานี มีหน่วยทหารในภาคอีสานหลายจังหวัดขึ้นตรงกับ ทหารบก อุบลราชธานี ในโอกาสออกตรวจเยี่ยมหน่วยทหาร ท่านได้ถือโอกาสเข้าไปกราบนมัสการท่าน พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ณ วัดป่าบ้านหนองผือ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2531
จากหนังสือ "รำลึกวันวาน" จากบันทึกความทรงจำของ หลวงตาทองคำ สมัยที่ได้อุปัฎฐากหลวงปู่มั่น เมื่อปี พศ 2487-2492
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=773518559368767&set=a.576290235758268.1073741828.100001318912109&type=1&theater
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น