วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การช่วยเหลือให้ผู้อื่นทำดี

การช่วยเหลือให้ผู้อื่นทำดี นั้นเป็นอย่างไร :  




เมื่อครั้งท่านตี้ซุ่นยังมิได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินจีนสมัยโบราณ(ก่อน พ.ศ. 1712)
ท่านไปยังหนองน้ำแห่งหนึ่ง เห็นชาวบ้านกำลังจับปลากันอยู่ คนที่แข็งแรงก็พากันไปยังที่ที่มีน้ำลึกปลาชุม ส่วนผู้ที่ไม่แข็งแรงและผู้ชราถูกกันให้ไปหาปลายังที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวและที่มีน้ำตื้นซึ่งปลาจะไม่ชอบมาบริเวณนั้น ทำให้จับปลาไม่ได้

 ท่านตี้ซุ่นเห็นดังนั้นก็บังเกิดความสงสารจับใจ ท่านจึงเข้าไปช่วยคนที่ไม่แข็งแรงและผู้ชราหาปลา ใครที่เห็นแก่ตัวชอบแย่งที่น้ำลึกท่านก็นิ่งเสียไม่ไปว่าเขา ใครที่ไม่เห็นแก่ตัวท่านก็จะนำพฤติกรรมไปสรรเสริญจนทั่ว ท่านเองก็ทำตัวเป็นตัวอย่างอันดีให้ปรากฏอยู่ทุกๆวัน จนกาลเวลาผ่านไปหนึ่งปี ชาวบ้านพากันสำนึกในความเห็นแก่ตัวของตน ต่างก็ทำดีต่อกันและกัน 

ในที่นี้ พ่อจะต้องบอกให้รู้ว่าพ่อไม่สนับสนุนในเรื่องการจับปลามาเป็นอาหาร เพราะการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนั้นเป็นบาปอย่างยิ่ง แต่ที่พ่อยกเรื่องนี้มาเป็นอุทาหรณ์ก็เพื่อให้ลูกเข้าใจว่า การช่วยให้ผู้อื่นทำความดีนั้น ต้องใช้ความอดทนพยายามเพียงไร ท่านตี้ซุ่นนั้นเป็นผู้ฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก เพียงแต่ท่านใช้คำพูดกล่อมเกลาจิตใจ ผู้คนก็จะเชื่อท่านเพราะต่างก็มีความเคารพท่านอยู่แล้ว แต่ท่านใช้เวลาถึงหนึ่งปีเต็ม ก็เพื่อที่จะให้ทุกคนกลับตัวกลับใจได้หมดและจะไม่กลับไปเป็นคนเห็นแก่ตัวอีกไม่ว่ากรณีใด และเป็นไปด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ด้วยบังคับหรือขอร้อง ให้ทุกคนตระหนักถึงความดีที่ต้องกระทำร่วมกัน เพื่อความผาสุกของพวกเขาเอง พ่อจึงสรรเสริญในความอุตสาหะของท่านยิ่งนัก 

พ่อและลูกต่างก็มีชีวิตอยู่ในยุคแห่งความมืดมน ผู้คนไม่ค่อยมีศีลธรรมเหมือนดังยุคก่อน เพราะฉะนั้นลูกจะต้องเจียมเนื้อเจียมตัว อย่าได้อวดดีว่าวิเศษกว่าผู้อื่น อย่านำความสามารถของตนไปข่มผู้อื่นที่ด้อยกว่าให้เขาได้อาย จงเก็บความรู้ความสามารถของเจ้าเอาไว้ในใจ อย่าได้แสดงออกให้ปรากฏแก่สายตาผู้อื่นโดยไม่จำเป็น ใครพลาดพลั้งล่วงเกินลูกก็จงให้อภัย อย่าได้แพร่งพรายความไม่ดีออกไป เพื่อให้โอกาสเขาได้กลับตัวกลับใจ เมื่อไม่มีใครรู้ก็ทำให้เขาไม่กำเริบเสิบสาน เพราะทุกคนย่อมรักหน้ารักตา ไม่อยากเป็นคนเสียชื่อเสียง เมื่อไม่วิจารณ์ให้ความลับของเขาเป็นที่เปิดเผยออกไป เขาจึงไม่กล้าที่จะทำผิดอีก 

บางคนนั้น เมื่อมีคนรู้ว่าเขาเป็นคนไม่ดีเสียแล้ว เขาก็เลยทำตัวแหลวแหลกยิ่งขึ้น เมื่อเป็นคนดีไม่ได้ก็ยอมเป็นคนชั่วไปเสียเลย คนเช่นนี้มีให้เห็นๆกันอยู่ ลูกต้องคอยสังเกตว่าผู้อื่นนั้นเขามีความสามารถอะไรบ้าง ถ้าเป็นสิ่งที่ลูกยังไม่มีลูกจงเอาความดีนั้นมาใส่ตนเถิด อย่าได้รีรอเลย ลูกจะต้องรู้จักชมเชยสรรเสริญความดีงามความสามารถของผู้อื่นให้แผ่ไพศาลออกไป อย่าได้มีจิตริษยา ในชีวิตประจำวันของลูก ไม่ว่าจะพูดสักคำ จะทำอะไรสักอย่าง จงอย่าทำเพื่อประโยชน์ตนเองก่อน ต้องถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ลูกจงจำไว้ให้ดี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น